การติดยาเสพติด เป็นอาการที่เจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงการทำลายระบบประสาท บางรายขึ้นขั้นเสียชีวิต และทำลายคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหากคนในครอบครัวหรือคนที่คุณรักกำลังใช้ยาเสพติดอยู่ หรือเกิดความไม่แน่ใจว่าอาการแบบไหนที่ติดยาเสพติด คุณควรสังเกตอาการเหล่านั้น และปรึกษา หาทางแก้ไขเพื่อเข้าบำบัดยาเสพติดได้อย่างถูกวิธี
1. เคยมีการใช้ยาเสพติดในปริมาณหรือระยะเวลามากกว่าที่ตั้งใจเอาไว้
2. เคยมีการที่พยายามจะหยุดใช้ยาเสพติดแต่ไม่สามารถหยุดได้ตามที่ตั้งใจไว้
3. เสียเวลาไปกับการเสพยาเสพติด หรือเสียเวลาจากฤทธิ์ของยาเสพติดที่ยังตกค้างอยู่หลังจากใช้ยาเสพติด
4. เคยมีอาการอยากใช้ยาเสพติดอย่างมาก มีความคิดหมกมุ่นกับยาเสพติด จนทำให้ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นๆ
5. การใช้ยาเสพติดเริ่มส่งผลต่อความรับผิดชอบในด้านต่างๆ เช่น บทบาทหน้าที่ในครอบครัว ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด การเรียน หน้าที่การงาน
6. ยังคงใช้ยาเสพติดอยู่ ถึงแม้จะรู้ว่าส่งผลเสียต่อครอบครัว เพื่อน คนรอบข้าง
7. หลีกเลี่ยงหรือไม่สนใจกิจกรรมต่างๆที่ตัวเองเคยสนใจ หรือสนใจในสิ่งที่ตัวเองเคยชื่นชอบลดลง และมาหาความสุขจากการใช้ยาเสพติดแทน
8. เคยมีเหตุการณ์ที่ฤทธิ์ของยาเสพติดเริ่มส่งผลให้เกิดอันตรายต่อตัวเอง เช่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ขาดสติทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการใช้เครื่องมือต่างๆ เดินโดยไม่ได้ระวังจนเกิดอุบัติเหตุ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
9. ยังคงเสพยาเสพติดอยู่ถึงแม้ว่าเมื่อใช้แล้วทำให้รู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล หรือ รู้ว่าทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพแต่ก็ยังคงเสพ
10. ต้องใช้สารในปริมาณที่มากขึ้นหรือเปลี่ยนชนิดของสารที่แรงขึ้นเพื่อให้ได้ฤทธิ์เท่าเดิม หรือ พบว่าเมื่อใช้สารในปริมาณเท่าเดิมแต่รู้สึกได้ฤทธิ์จากการใช้ที่ลดลง
11. เมื่อไม่ได้ใช้ยาเสพติด หรือเมื่อยาเสพติดเริ่มหมดฤทธิ์แล้วจะเริ่มมีผลข้างเคียงซึ่ง้รียกว่า เกิดอาการถอน (withdrawal symptom) อาการขึ้นอยู่กับสารเสพหากเป็นสารกระตุ้นประสาท ยาบ้า ยาไอซ์ อาการถอนจะเป็นอาการง่วงซึม อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ส่วนสารกดประสาท เช่น แอลกอฮอล์ เหล้า อาการถอนจะมีอาการ กระสับกระส่าย อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ อาการถอนของสารอนุพันธ์ฝิ่น เช่น เฮโรอีน กระท่อม จะมีอาการปวดเมื่อตัว กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
• หากมี 2-3 ข้อ แปลว่า ผู้เสพเริ่มมีปัญหาติดยาเสพติด
• หากมี 4-5 ข้อ แปลว่า ผู้เสพมีปัญหาติดยาเสพติดค่อนข้างมาก
• หากมีตั้งแต่ 6 ข้อขึ้นไป ผู้เสพมีปัญหาติดยาเสพติดรุนแรง
หากญาติหรือคนใกล้ชิดเริ่มสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้ได้ ควรรีบพาผู้เสพมาบำบัดรักษาทันที โดยช่วงที่เหมาะสมที่จะพามารักษาคือตั้งแต่ระยะเริ่มมีปัญหาติดยาเสพติด
ผู้เสพเริ่มมีอาการทางจิตจากการใช้สารเสพติด ต้องรีบพามาบำบัดยาเสพติดเร่งด่วนเนื่องจากผู้ป่วยอาจทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายผู้อื่นไปโดยไม่รู้ตัว หากปล่อยไว้นานอาการจะยิ่งเป็นมากขึ้น กลุ่มอาการที่บ่งบอกว่าผู้เสพเริ่มมีอาการทางจิต มีดังนี้
1. ผู้เสพเริ่มมีอาการหูแว่ว สังเกตได้จากผู้ป่วยอาจพูดคนเดียว หัวเราะคนเดียว หรือได้ยินคนมาคุยด้วยทั้งที่คนอื่นๆไม่เห็นและไม่ได้ยิน เสียงจากอาการหูแว่วที่มาพูดกับผู้เสพยาเสพติดอาจมีหลายรูปแบบ เช่น เสียงมาพูดคุยทั่วไป เสียงมาขู่ทำร้าย เสียงมาสั่งให้ทำสิ่งต่างๆ เสียงมาตำหนิต่อว่า เมื่อผู้ป่วยได้ยินเสียงเหล่านี้จึงทำให้เกิดอาการหวาดระแวง หงุดหงิดก้าวร้าว อารมณ์แปรแรวน ซึมเศร้าตามมา
2. ผู้เสพเริ่มมีอาการหลงผิด หมายถึง ผู้ป่วยจะเชื่อในสิ่งที่ไม่ได้มีอยู่จริง ไม่ได้เกิดขึ้นจริง หรือบางครั้งอาจเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ โดยถึงแม้คนรอบข้างขะพยายามบอกว่าผู้เสพคิดไปเอง ผู้เสพก็จะยังคงเชื่อในเรื่องที่ตัวเองคิดอยู่อย่างนั้น
3. ผู้เสพเริ่มมีลักษณะการคิดที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล หรือเป็นเหตุผลที่ตัวเองคิดขึ้นมาเอง แต่จะดูไม่สมเหตุสมผลในมุมมองของคนรอบข้าง สังเกตได้จากผู้เสพจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ตัดสินใจสิ่งต่างๆไม่เหมาะสม
4. ผู้เสพมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ทำอะไรแปลกๆ เช่น บางรายอาจเดินไป เดินมารอบบ้าน บางรายอาจเก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่กล้าออกไปไหน พฤติกรรมที่แปลกไปเหล่านี้เกิดจากผู้ป่วยมีความคิดบางอย่างที่หลงผิดอยู่จึงทำสิ่งต่างๆที่คนอื่นไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เสพ ไม่กล้ากินน้ำกินอาหารเนื่องจากกลัวโดนวางยาพิษ
วิธีการส่งผู้เสพเข้ารับการบำบัดรักษามีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. ให้ญาติของผู้รับการบำบัดติดต่อ ศูนย์บำบัดยาเสพติด day one rehabilitation center โดยโทร 064-645-5091 ผู้เชี่ยวชาญของเราจะสอบถามอาการของผู้รับการบำบัดเบื้องต้น เพื่อประเมินว่าผู้รับการบำบัดต้องรักษาอย่างไร โดยหากผู้รับการบำบัดมีอาการถอน หรือผลข้างเคียงทางร่างกาย หรืออาการทางจิตที่รุนแรง ผู้เชี่ยวชาญของเราจะนัดหมายกับจิตแพทย์ให้ เพื่อให้ผู้ป่วยไปรักษาอาการทางจิตและถอนพิษสารเสพติด ซึ่งต้องใช้ยารักษาที่โรงพยาบาลก่อน
2.หากผู้เชี่ยวชาญของ ศูนย์บำบัดยาเสพติด day one rehabilitation center ประเมินแล้วว่าผู้รับการบำบัดอาการถอนและความผิดปกติทางกายไม่รุนแรง และไม่ได้มีอาการทางจิตที่รุนแรง ญาติสามารถพาผู้รับการบำบัดมาบำบัดที่ ศูนย์บำบัดยาเสพติด day one rehabilitation center ได้เลยหลังจากนัดหมาย
3. โทรนัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนัดวันเวลาที่จะนำตัวผู้รับการบำบัดมาที่ ศูนย์บำบัดยาเสพติด day one rehabilitation center
4. พยายามแสดงความเป็นห่วงในอาการของผู้รับการบำบัด ให้เหตุผลที่เป็นความจริง หนักแน่นในการพาผู้รับการบำบัด มาบำบัดยาเสพติด (เพิ่มทีหลัง >> ญาติสามารถศึกษารายละเอียดได้ในบทความ วิธีโน้วนาวผู้ติดยาเสพติด ให้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด )
5. หากญาติไม่สะดวกที่จะพาผู้รับการบำบัดมาเอง หรือผู้รับการบำบัดแสดงท่าทีต่อต้าน ญาติสามารถแจ้งกับเรา ทางเราจะมีบริการรถรับส่งและเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยพาผู้รับการบำบัดมาที่ศูนย์
6. สิ่งของที่ต้องเตรียมมามีดังนี้
6.1 ของใช้ส่วนตัวใน เช่น สบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
6.2 ชุดสำหรับออกกำลังกาย รองเท้าวิ่ง
6.3 บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับการบำบัดและของญาติเจ้าของไข้
7. วันที่เข้ารับการบำบัดให้ญาติติดต่อผู้จัดการประจำ ศูนย์บำบัดยาเสพติด day one rehabilitation center ญาติและผู้รับการบำบัดจะต้องเซ็นเอกสารยินยอมเข้ารับการบำบัด ผู้จัดการศูนย์จะชี้แจ้งระเบียบในการเข้ารับการบำบัดให้ทราบ ญาติสามารถดูรายละเอียดของการบำบัดล่วงหน้าได้ที่ คำถามที่พบบ่อย
8. ระยะเวลาในการบำบัดเริ่มต้นที่ 28 วัน บางรายอาจเหมาะกับการระยะยาว เช่น 3 - 12 เดือน ขึ้นอยู่กับอาการของผู้รับการบำบัดแต่ละราย ตลอดการบำบัดที่ ศูนย์บำบัดยาเสพติด day one rehabilitation center จะมีผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เช่น จิตแพทย์ พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยา นักกิจกรรมบำบัด มาให้การบำบัดตามโปรแกรมให้เหมาะกับอาการของผู้รับการบำบัดแต่ละราย โดยจะมีการนัดญาติผู้รับการบำบัดมาเพื่อให้คำปรึกษาหรือทำครอบครัวบำบัดเป็นระยะเพื่อให้มีส่วนร่วมในการรักษาผู้รับการบำบัด และปรับความเข้าใจต่อกันให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นเมื่อกลับไปบ้าน
9. หากผู้รับการบำบัดอาการดีขึ้น พร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองผู้เชี่ยวชาญของทางศูนย์จะแจ้งวันเวลานัดหมายเพื่อให้ญาติมารับกลับ
10. ทางศูนย์จะทำการนัดหมายกับผู้รับการบำบัดและญาติเป็นระยะ ในช่วงแรกหลังออกจากศูนย์ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อติดตามอาการว่ายังคงเลิกเสพได้ต่อเนื่องหรือไม่ หากหยุดเสพได้ต่อเนื่องทางศูนย์จะนัดระยะห่างขึ้นเป็นทุก 1-3 เดือน หากผู้รับการบำบัดเลิกได้ต่อเนื่องเป้าหมายคือ 1 ปี หมายความว่าผู้ป่วยสามารถเลิกยาเสพติดได้สำเร็จ
11. หากผู้รับการบำบัดต้องรักษาด้วยการกินยาเพื่อรักษาอาการทางจิตหรือภาวะทางอารมณ์ร่วมด้วย ทางศูนย์จะประสานกับจิตแพทย์เพื่อให้ผู้ป่วยไปรับยารักษา และประเมินอาการกับจิตแพทย์ต่อเนื่อง
การจะเลิกยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการรู้จักวิธีบำบัดยาเสพติดที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่มีปัญหาจากสารเสพติด ที่กำลังหาวิธีเลิกยาเสพติด วิธีเลิกเหล้า ไปจนถึง วิธีเลิกพนัน DAY ONE REHABILITATION CENTER ศูนย์บำบัดยาเสพติด พร้อมให้คำแนะนำและปรึกษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จิตแพทย์ พยาบาลจิตวิทยา นักจิตวิทยา นักกิจกรรมบำบัด ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านปัญหาสารเสพติด
ติดต่อเรา
99/1 หมู่ 6 ตำบล ศรีจุฬา อำเภอ เมืองนครนายก จังหวัด นครนายก 26000
จันทร์ – อาทิตย์: 9.00 -17.00