เลิกยาเสพติดไม่ได้ ควรทำอย่างไร? คำแนะนำเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการ
ทำไมเลิกยาเสพติดถึงยาก?
หลายคนเข้าใจว่าการเลิกยาก็คือแค่การหยุดใช้ ซึ่งฟังดูไม่ยาก แต่ในความจริงสมองของผู้ใช้สารเสพติดถูก “ปรับวงจร” ไปแล้ว โดยเฉพาะสารกระตุ้น เช่น ยาบ้า โคเคน หรือไอซ์ มีผลทำให้สมองหลั่ง โดปามีน (dopamine) สูงผิดปกติ พอหยุดใช้ สมองจะทำงานผิดจังหวะ จึงเกิดความอยากยาเสพติดที่ยากจะควบคุมตัวเอง
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยร่วม:
- อารมณ์และจิตใจ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล โกรธง่าย
- สิ่งแวดล้อม เช่น เพื่อนที่ยังใช้ยา หรือสถานที่ที่เคยเสพ
- ความคิดหลอกตัวเอง เช่น “ครั้งเดียวไม่เป็นไร”
ดังนั้น การเลิกยาไม่ได้หมายความว่าหายขาด แต่ต้องมีแผน ป้องกันการกลับไปใช้ซ้ำ (Relapse Prevention) ที่ครบทุกมิติ
Relapse Prevention ป้องกันการกลับไปใช้ซ้ำในทุกมิติ
1) จัดการสิ่งกระตุ้น (Triggers)
- หลีกเลี่ยงคน สถานที่ สิ่งของที่โยงกับการเสพ
- สังเกตอารมณ์อันตรายที่ทำให้เราเปราะบาง เรียกย่อๆว่า HALT: ความหิว (Hungry), โกรธ (Angry), ความเหงา (Lonely), ง่วง อ่อนเพลีย (Tired) มักเป็นช่วงเสี่ยงที่ทำให้อยากใช้สาร เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่เริ่มรู้ตัวว่าอยู่ในสภาวะเหล่านี้ ต้องรีบกลับมาดูแลตัวเองให้ดี เช่น กินให้อิ่ม พักผ่อนให้เพียงพอ ปล่อยว่างความโกรธ ความไม่พอใจ อย่าปล่อยให้ตัวเองว่างและโดดเดี่ยว เข้าหาสังคมหรือคนใกล้ชิดที่ดีต่อใจ
2) ทักษะเอาชนะความอยากสารเสพติด
- โต้คลื่นความอยาก (Urge Surfing): มองความอยากเหมือนคลื่น มีขึ้น มีลง ให้เวลาประมาณ 10 นาที ความอยากจะค่อยๆ เบาลงเอง
- ระบุสถานการณ์เสี่ยงและวางแผนรับมือล่วงหน้า (If–Then Plan): เช่น “ถ้ามีคนชวนเสพ จะปฏิเสธและบล็อกช่องทางการติดต่อทันที”
- เบี่ยงเบนความคิด (Distract): เบี่ยงเบนด้วยการทำอะไรที่ตัวเองชอบ เช่น ออกกำลังกาย ไปเดินเล่น หรือทำกิจกรรมใหม่
3) จิตบำบัดและการดูแลจิตใจ
- ฝึกปรับความคิดและพฤติกรรม: เช่น การบำบัดแบบ CBT (Cognitive Behavioral Therapy) ที่ช่วยฝึกสังเกตและแก้ไขความคิดที่นำไปสู่การเสพ เช่น “แค่ครั้งเดียวไม่เป็นไร”
- หาจุดมุ่งหมายและสิ่งสำคัญในชีวิต: ตอบตัวเองให้ได้ว่าอยากเลิกยาเสพติดเพราะอะไร หากเลิกได้มีโอกาสจะเกิดสิ่งดีๆในชีวิตอย่างไรบ้าง
- รักษาโรคร่วมทางจิตเวช (co-occurring psychiatric disorder): เช่น ซึมเศร้า โรคจิตเภท ไบโพลาร์ เพราะถ้าไม่ได้รักษา โอกาสกลับไปเสพซ้ำจะสูงมาก เพราะสภาวะทางจิตใจไม่คงที่
4) ดูแลร่างกาย
- นอนให้พอ 7–9 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
- รับประทานอาหารครบหมู่และดื่มน้ำเพียงพอ
5) ครอบครัวและสังคมช่วยได้
- ครอบครัวควร “สนับสนุนให้เลิกสารเสพติด โดยไม่ปกป้องในสิ่งที่ทำให้พฤติกรรมการเสพติดคงอยู่” เช่น ไม่ให้เงินสดที่จะนำปเสพยาได้ แต่ช่วยจัดการพาไปพบแพทย์
- ไม่ควรตำหนิหรือกล่าวโทษผู้เสพยาเสพติด แต่หาทางแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อช่วยเหลือให้เลิกยาได้ขาด
6) แผนฟื้นฟูต่อเนื่อง (Aftercare)
- มาติดตามการรักษาสม่ำเสมอ เพื่อให้จิตแพทย์ นักจิตวิทยา ประเมิน รักษา และติดตามอาการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเลิกเสพได้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี สมองจึงจะหายจากความอยากยา
ถ้าเลิกไม่ได้จริง ควรทำอย่างไร?
การบำบัดเองที่บ้านอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าเคยเลิกแล้วล้มเหลวซ้ำ หรือมีอาการทางจิต เช่น หูแว่ว หลงผิด หวาดระแวง การเข้าศูนย์บำบัดแบบอยู่ประจำคือทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมีทีมแพทย์และนักจิตวิทยาดูแลอย่างใกล้ชิด
Day One Rehabilitation Center ใช้การดูแลแบบองค์รวม:
- ถอนพิษอย่างปลอดภัย
- จิตบำบัดรายบุคคลและกลุ่ม
- ฟื้นฟูสมองและร่างกาย
- ทีมงานเฉพาะทางทั้ง จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักบำบัดสาขาต่างๆที่เฉพาะทางด้านการบำบัดสารเสพติด
สนใจติดต่อ Day One Rehabilitation Center ศูนย์บำบัดยาเสพติด ครบวงจร และ วิธีเลิกยาเสพติด อย่างยั่งยืน ติดต่อเราได้ทุกช่องทาง
หากคุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับ การบำบัดยาเสพติด วิธีเลิกกัญชา สำหรับลูกของคุณ ติดต่อ Day One Rehabilitation Center เพื่อรับคำปรึกษาและการดูแลที่ครอบคลุม
โทร : 064-645-5091, 064-645-5092
LINE : @dayone
www.dayonerehabcenter.com
ที่ตั้ง : 99/1 หมู่ 6 ตำบล ศรีจุฬา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 26000 (เพียง 1 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/QsirzwMjJ185K5oa7